ประเพณี วัฒนธรรมภาคใต้ จากการที่ได้ศึกษาในรายวิชาดังที่กล่าวถึงแล้วนี้ ก็เลยขอเสนอแนะวิชาความรู้ในเล็กน้อยที่มีความคิดว่าจะมีคุณประโยชน์กับคนที่กำลังเรียนวัฒนธรรมเขตแดนภาคใต้ของพวกเราว่ามีภูมิหลังเกี่ยวสโมสรกับเรื่องใดบ้างก่อนที่จะมีวัฒนธรรมให้พวกเราได้ยึดมั่นปฏิบัติกันมาจนกระทั่งวันนี้
คำว่า “วัฒนธรรมแคว้น” กล่าวอีกนัยหนึ่ง วัฒนธรรมเขตแดนในที่นี้ก็จะเชื่อมโยงไปให้มองเห็นคำว่าวัฒนธรรมแคว้นภาคใต้ โดยเหตุนี้คำว่าวัฒนธรรมแคว้นภาคใต้แน่ๆจะบอกชี้เฉพาะไปที่ความเป็นแคว้นภาคใต้ ด้วยเหตุนี้พอเพียงเป็นความแคว้นภาคใต้ ก็จำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจ ความมีลักษณะเฉพาะของวัฒนธรรมแคว้นภาคใต้ในอีกแบบหนึ่ง เพียงพอเฉพาะไปเรื่องวัฒนธรรมเขตแดนภาคใต้พวกเราก็ควรจะมีรากฐานให้รู้เรื่องไปอัตโนมัติว่าเมืองไทยถูกแบ่งภูมิภาคออกเป็นอย่างต่ำ 5 ภูมิภาค ซึ่งขนาดภาคใต้เองก็เป็นภาคใต้ตอนล่าง-ภาคใต้ตอนบน ภาคกึ่งกลางเองก็มีภาคตะวันตก ภาคทิศตะวันออก ภาคกึ่งกลาง ภาคอีสานภาคตะวันตก ที่แบ่งให้มองเห็นความล้ำหรือความแตกต่างของวัฒนธรรม
ดังนี้วัฒนธรรมเขตแดนภาคใต้มี 2 โซน ก็คือ วัฒนธรรมเขตแดนภาคใต้ตอนล่าง กับวัฒนธรรมเขตแดนภาคใต้ตอนบน ก็ได้แบ่งโดยพื้นที่ของจังหวัดสงขลานับลงไปถึงโซนด้านล่างสุด และก็นับไปจากนครศรีธรรมราชขึ้นไปก็เป็น 6 จังหวัดภาคใต้ตอนบน และก็ 6 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ด้วยเหตุผลดังกล่าวขนาดโซนภาคใต้เองที่พวกเราเรียกว่าวัฒนธรรมเขตแดนภาคใต้ ก็จะมีจุดเน้นย้ำทางด้านวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนกัน
ประเพณีภาคใต้ ตอนล่างพวกเราจะมีความคิดเห็นว่าแตกต่าง พวกเราจะมีความคิดเห็นว่าหน้าที่ศาสตราวุธ โดยยิ่งไปกว่านั้น 6 ภาคใต้ตอนล่างศาสตราวุธที่มีความพิเศษมากมาย ในเขตแดนภาคใต้ก็คือกริชใน 6 ภาคใต้ตอนล่าง กริชหรือออกเสียงเป็นภาษาอินโดนีเซียบาฮาซาออกเสียงว่าเกอริช 2 พยางค์แม้กระนั้นชาวไทยเอาคำนี้มาใช้เรียกรวมกันว่ากริชใน อินโดนีเซียบาฮาซา หมายความว่าแทงในระยะประชิดตัว แม้กระนั้นพอเพียงเป็นคำกริยา เวลามาอยู่ในประเทศไทยออกเสียงเป็นพยางค์เดียวว่ากริช แม้กระนั้นคนภายในอินโดนิเซียออกเสียงว่าเกอริช และจากนั้นก็เป็น อาวุธสำคัญที่สะท้อนให้มองเห็นทั่วโลกทัศน์ความศรัทธาและก็วิวัฒนาการทางศาสนา ในพื้นที่แหลมมลายูทั้งปวง
ส่วนภาคใต้ตอนบนกริชหรือเกอริชจะตัดทอนหน้าที่ลงไป มากมาย กลับมีอาวุธประเภทหนึ่งที่เด่นแทนหน้าที่ ของกริชก็คือพระขรรค์ ดังนั้นวัฒนธรรมภาคกึ่งกลางที่มีผลกระทบมาถึงนครศรีธรรมราชซึ่งเป็นหัวเมือง ชั้นเอกในยุคอยุธยาเป็นต้นมามันก็เลยทำให้ศาสตราวุธมีความไม่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะมีคติหรือจารีตการใช้ที่ใกล้เคียงกัน อย่างเช่น ในช่วงเวลาที่แต่งตั้งองค์กษัตริย์เมืองในเมืองไทยพวกเราจะมีความคิดเห็นว่าพระขรรค์มีเป็นศาสตราวุธ ที่สำคัญเค้าเรียกพระขรรค์แสงสว่างชัยศรี เวลาที่แต่งตั้งองค์กษัตริย์เมืองในแหลมมลายูทั้งผอง เครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่สำคัญก็คือ กริช แม้กระนั้นในภาคใต้ เมืองไทยภาคใต้ตอนบน ขึ้นไปพระขรรค์ ไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะจารีตในลักษณะแบบงี้แต่ว่าในศิลปะการแสดงประจำถิ่นพวกเราพบว่าตัวนำในหนังตะลุงที่ขึ้นไป
จากนครศรีธรรมราชหรือในเขตที่ลุ่มทะเลสาบบางช่วงผู้แสดงนำจะถือพระขรรค์โน่นเป็นตัวพระเอกหรือตัวละครบทนำถ้าหากถือพระขรรค์แล้วจะไม่เป็นตัวทุจริต ในช่วงเวลาที่หนังตะลุงในภาคใต้ตอนล่างที่เค้าเรียกว่าหนังวายัง วายังแบบจังหวัดปัตตานี หรือวายังกูริชในชวาปรากฏว่าผู้แสดงนำซึ่งชอบเป็นดารานำชายของเรื่องก็จะถืออาวุธสำคัญก็คือพระขรรค์ทั้งมวล ตัวไหนถือกริช ในวัฒนธรรมภาคใต้ตอนล่างไปจนกระทั่งแหลมมลายูทั้งสิ้นเลยก็จะไม่เป็นตัวคนร้าย ตอนที่ตัวนำในวัฒนธรรมภาคกึ่งกลางที่มีหน้าที่มากมายถ้าหากถือพระขรรค์ก็จะไม่มีวันเป็นโจร อันสะท้อนให้มีความคิดเห็นว่าภูมิภาค สิ่งที่เรียกว่าวัฒนธรรมมีความไม่เหมือนกันอย่างชัดเจนขึ้นกับภูมิหลังรวมทั้งความก้าวหน้าทางประวัติศาสตร์หรือศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมด้วยเหตุผลดังกล่าวเรื่องแนวความคิดคุณสมบัติเฉพาะของวัฒนธรรมแคว้นในภาคใต้บางทีอาจแบ่งเป็น 2 โซนเป็นภาคใต้ตอนล่างกับภาคใต้ตอนบนในช่วงเวลาที่ภาคใต้ตอนล่างมีศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรมอยู่ที่ในชวา เนื่องจากก่อนรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมาวัฒนธรรมแคว้นภาคใต้เป็นวัฒนธรรมที่ไหลล้นล้นเข้ามาจากแหลมมลายูแล้วก็ใช้ด้วยกันมาถึงภาคใต้ตอนล่าง แม้กระนั้นเพียงพอภายหลังยุครัชกาลที่ 5 ซึ่งมีการปฏิวัติส่วนประกอบระบบรัชกาลอย่างรอบด้านนำมาซึ่งการทำให้การเรียนและก็วัฒนธรรมการเรียนแบบใหม่ที่เมืองไทยเป็นผู้จัดมีผลต่อวัฒนธรรมแล้วก็การศึกษานี้บางทีอาจถูกระบุโดยแกนสำคัญก็คือแนวความคิดทางด้านศาสนา หากแม้ฐานรากทางด้านวัฒนธรรมของกลุ่มของผู้คนในพื้นที่ภาคใต้จะมีพื้นฐานมาจากวัฒนธรรมเชื่อถือวิญญาณบรรพบุรุษขยับมาเป็นวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นมาจากอิทธิพลฮินดู-พราหมณ์ วัฒนธรรมที่ฐานทางศาสนาพุทธอีกทั้งศาสนาพุทธแบบอาจริยวาทและก็ทักษิณนิกาย รวมทั้งอิทธิพลของอิสลามในยุคสมัยใหม่ก็จะมีความคิดเห็นว่า แกนส่วนประกอบสำคัญที่มีผลต่อวัฒนธรรมแคว้นมีเหตุมีผลหรือมีสิ่งสำคัญหลายประการโดยเหตุนี้โดยยิ่งไปกว่านั้นมิติทางศาสนา เป็นข้อแม้สำคัญที่ทำให้เป็นเบ้าหลอมหรือสร้างความคิดเห็นแนวทางคิดรวมทั้งวิถีชีวิตให้กับผู้คนโดยยิ่งไปกว่านั้นในสมัยข้างหลัง
วิถีชีวิตของมนุษย์ในภาคใต้ก็จะไปเกี่ยวกับฐานทรัพยากร ถ้าหากว่าใช้แนวความคิดเรื่องลักษณะทางภูมิศาสตร์หรือภูเขาไม่วัฒนธรรมพวกเราจะมองเห็นวิถีชีวิตของคนเราที่สำคัญ ฐานทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ภาคใต้บางทีอาจจะแบ่งเป็น 3 โซน โซนที่ 1 โซนเทือกเขา โซนที่ 2 โซนที่ราบลุ่ม โซนที่ 3 ก็คือพื้นที่โซนชายหาด โดยเหตุนี้เวลาพวกเราแบ่งโซนอย่างนี้พวกเราจะมีความคิดเห็นว่าวิถีชีวิตของคนเราที่อยู่ตามเขตเขาควนอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีวิถีชีวิตที่ไปความสัมพันธ์กับฐานทรัพยากรธรรมชาติอีกแบบอย่างหนึ่ง อันที่ 2 วิถีชีวิตของผู้ที่อยู่ในเขตพื้นที่ราบลุ่มก็จะเกี่ยวโยงกับวิถีท้องนา อันที่ 3 วิถีชีวิตของมนุษย์ที่อยู่ตามชายฝั่งทะเลก็จะใช้ฐานทรัพชูร โดยยิ่งไปกว่านั้นฐานทรัพยากรที่เกี่ยวเนื่องกับประมงหรือสมุทร เพราะฉะนั้นพอเพียงเอ๋ยถึงลักษณะอย่างนี้วิถีชีวิตของมนุษย์อีกทั้งวิถีชีวิตทุกวัน วิถีการบริโภค วิถีการแต่งตัวก็ย่อมต่างกันเป็นปกติ อันนี้สะท้อนให้มองเห็นวิถีชีวิตของคนเราในภาคใต้ ในส่วนลำดับที่สอง ด้วยเหตุนี้วิถีชีวิตลักษณะอย่างงี้ในสมัยโบราณเค้าก็เลยไม่สามารถที่จะพึ่งตนเองได้โดยแยกอิสระระหว่างกรุ๊ปชาวเลเป็นกรุ๊ปที่ทำประมงกรุ๊ปที่ทำไร่ทำนาอกลุ่มที่อยู่เขตเขาควน โดยเหตุนี้สะท้อนให้มองเห็นวิถีชีวิตของมนุษย์ในภาคใต้โดยภาพรวม
วิถีชีวิตของชาวภาคใต้” ถ้าหากมองลักษณะทางด้านภูมิศาสตร์ของภาคใต้ซึ่งมีลักษณะเป็นแหลมและก็มีกระดูกสันหลังเป็นแนวเขาบรรทัดที่ทอดยาวมาจาก ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงมาจนกว่าถึงตอนล่างสุด ผ่านพื้นที่ใดเขาก็เรียกแนวเขานั้นแตกต่าง เป็นต้นว่า เรียกแนวเขาสันกาลาคีรี เรียกแนวเขาบรรทัด ก็ตามทีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่พื้นที่ที่ตรงนั้นปรากฏ โดยเหตุนี้ลักษณะที่มีทางด้านทิศตะวันออกก็เป็นสมุทร ทางตะวันตกก็เป็นสมุทรรวมทั้งมีที่ราบแน่ๆ และมีที่ราบตีนเขา และจากนั้นก็มีที่ราบชายทะเล เวลาเอ่ยถึงคำว่า “วิถีชีวิตของชาวภาคใต้” ก็เลยหนีไม่พ้นที่จะเชื่อมโยงให้มองเห็นลักษณะทางภูมิศาสตร์ของภาคใต้ ถ้าเกิดบอกให้มองเห็นเรื่องความเจริญ เรื่องวิถีชีวิตที่อยู่ชายน้ำบางทีอาจกล่าวถึงวิถีชีวิตของชาวตังเกรวมทั้งที่ราบริมฝั่ง เมื่อเอ่ยถึงวิถีชีวิตชาวเลแน่ๆจำเป็นต้องไปเกี่ยวข้องกับระบบมรสุม ก็คือมรสุมทิศตะวันออก มรสุมตะวันตก ด้วยเหตุดังกล่าววิถีชีวิตของราษฎรหรือจะเรียกว่าการผลิตองค์วิชาความรู้หรือความคิดเพื่อไปใส่รับกับวิถีชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกับลักษณะทางภูมิศาสตร์หรือความคิดของแต่ละพื้นที่ก็ไม่เหมือนกัน โดยเหตุนี้บางทีอาจชูกรณีแบบอย่างกล้วยๆของวิถีชีวิตของชาวเลฝั่งอ่าวไทยลักษณะรูปเรือก็บางทีอาจไม่เหมือนกัน ลักษณะคลื่นเองก็บางทีอาจลักษณะไม่เหมือนกันด้วย ก็เลยทำให้ต้นแบบเรือที่ปรากฏ ที่ลักษณะการใช้แตกต่างที่เป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมเด่นชัด เป็นต้นว่า เรือในฝั่งอ่าวไทยก็ผลิตเรือกอและก็ ลักษณะเรือกอรวมทั้งจะมีตัวเรือค่อนข้างจะที่จะอ้วน และหัวเรือก็มีลักษณะความแหลมคมเพื่อจะตัดคลื่นให้เร็ว และจากนั้นก็ส่วนท้ายก็จะสั้นลง อันนี้ก็จะแอบซ่อนให้มองเห็นความถี่ของคลื่นที่ปรารถนาผลิตเรือเพื่อจะใช้ประโยชน์ในฝั่งอ่าวไทย รวมทั้งอุปกรณ์ทางการประมงก็แตกต่าง ดังเช่นว่า รูปแบบของจำพวกปลาในฝั่งอ่าวไทยต่างจากชนิดปลาในฝั่งอันดามัน ก็จะมีผลให้สิ่งที่ใช้ในการจับสัตว์ต่างกันด้วย เรื่องความคิดการใช้ผลดีรวมทั้งเครื่องไม้เครื่องมือ ชาวเรือสามารถแบ่งลักษณะตาของอวนที่จะใช้ในฝั่งอ่าวไทยว่าหากแหขนาดนี้จำต้องดักที่ฝั่งอ่าวไทย แหขนาดนี้จะต้องดักที่ฝั่งอันดามัน ซึ่งแน่ๆวิถีชีวิตถ้าหากมองเห็นวิวัฒนาการในอดีตกาลมาถึงเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนี้พวกเราจะมีความเห็นว่าฝั่งอันดามันแปลงเป็นพื้นที่ที่การท่องเที่ยวที่สำคัญมาก
อีกกรุ๊ปหนึ่งที่สำคัญก็คือกรุ๊ปที่ตั้งถิ่นที่อยู่อาศัยอยู่รอบๆที่ราบลุ่ม ที่ราบลุ่มรอบๆนี้ก็จะเกี่ยวกับการเลี้ยงชีพกสิกร แน่ๆการดำรงชีพกสิกรก็คือเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของแนวทางการทำการกสิกรรมและก็ปลูกข้าว พอเพียงปลูกข้าวก็จะมีความเห็นว่าชาวไร่ชาวนาผลิต ปลูกข้าวบนรากฐานของนาปีที่พวกเราเรียกนาปี ด้วยเหตุดังกล่าววิถีชีวิตของชาวที่ปลูกข้าวนนาปีก็จะเกี่ยวกับลักษณะทางด้านธรรมชาติที่เขาใช้เป็นทรัพยากรสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบที่ลุ่มทะเลสาบจังหวัดสงขลาพวกเราพบว่า ผู้ที่ดำรงชีพปลูกข้าวก็จะมีอาชีพอันหนึ่งที่สำคัญในตอนที่มิได้ทำไร่ทำนาปี “นาปี” หรือชีวิตของกสิกรหากพวกเรามองเห็นตอนที่เขาเรียกว่าคำตอบชีวิตอยู่ที่เขตเขาควน พวกเราจะมีความเห็นว่าเศรษฐกิจของผู้ประกอบอาชีพที่เขตเขาควนมีรายได้สูงมากมาย โดยยิ่งไปกว่านั้นตอน 20 ปีที่ล่วงเลยไป ที่มีอุตสาหกรรมการปลูกยางในภาคใต้ นำมาซึ่งการทำให้วิถีชีวิตของกสิกรยางก็ต่างจากชาวเล ไม่เหมือนกับชาวไร่ชาวนามากมาย ดังเช่น กสิกรยางบางทีอาจจำเป็นต้องตื่น นอนช่วงเวลากลางวันและตื่นปฏิบัติงาน 5 ทุ่มก็เริ่มที่กรีดยาง มาสว่างก็จะกรีดยางเสร็จพอกรีดยางเสร็จเช้าตรู่ก็ทำภารกิจเรื่องหุงของกิน และจากนั้นก็เสร็จก็นอนพักช่วงกลางวัน อันนี้ก็จะมองเห็นวิถีชีวิตทุกวันที่เปลี่ยนไป ด้วยเหตุนั้นฐานทรัพยากรเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้วิถีชีวิตราษฎรเปลี่ยนไปไม่น้อยเลยทีเดียว รวมทั้งภาพรวมรายได้ของครอบครัวในทางเศรษฐกิจ จะมีผลให้วิถีชีวิตราษฎรจากสังคมเกษตรสู่สังคมอุตสาหกรรมหรือสังคมเมืองสังคมครึ่งอุตสาหกรรม แต่ยังไงก็ดีตอนนี้เทคโนโลยีมิได้อยู่กับเมืองกับต่างจังหวัดอีกแล้วครับ ฐานทางด้านทรัพยากรเปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง หรือเทคโนโลยีเมืองกับบ้านนอกบางทีอาจไม่ต่างอะไรอะไรโดยยิ่งไปกว่านั้นการเข้าถึงเทคโนโลยีแบบใหม่ที่พวกเราเรียกว่าเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตไร้สายสังคมติดต่อสื่อสาร สังคมดิจิตอลก็เปลี่ยนเค้าหน้าของวิถีชีวิตการติดต่อสื่อสารทั้งผอง
ในเรื่องของความเลื่อมใสในภาคใต้จะมีกรุ๊ปความศรัทธามาก พวกเราจะเจอความศรัทธาที่ไม่สามารถสลัดออกไปจากชีวิตภาคใต้ได้เลย โดยยิ่งไปกว่านั้นในวัฒนธรรมภาคใต้รวมทั้งมิติความเชื่อถือทางศาสนาด้วย ก็ตามทีว่าคนกรุ๊ปไหนเชื่อถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังไงก็จะดำรงชีพไปตามความเชื่อถือนั้น ดังเช่น ความเชื่อถือความเชื่อในเจดีย์วัดไอ้ไข่ก็เชื่อกัน แม้กระนั้นความเชื่อถืออย่างนี้ก็นับว่าเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของชีวิตของชาวใต้ หรือความศรัทธาพระเจ้าอยู่หัวบิดาทวด หรือความเชื่อถือจากวิถีโบราณ ภาคใต้บางทีอาจเชื่อเรื่องผีบรรพบุรุษตายาย โนราโรงอาจารย์
ในเรื่องของขนบธรรมเนียมในภาคใต้ ก็จะมีจารีตลากพระหรือชักพระ จารีตทำบุญทำทานเดือนสิบ ขนบธรรมเนียมทำตาคุณยายโนราโรงอาจารย์ จารีตทำบุญทำทานเดือนห้าหรือจารีตประเพณีวันสงกรานต์ของชาวภาคกึ่งกลางที่เวลานี้คนภาคใต้ก็ใช้จารีตนี้เรียกว่าเรียกว่าเป็นจารีตประเพณีวันสงกรานต์แบบเดียวกันรวมทั้งจารีตย่อยเขตแดนจำนวนมากได้แก่ขนบธรรมเนียมสมรสกับนางไม้ของชาวสิงทีคร จารีตประเพณีไหว้แม่เจ้าอยู่หัวของชาวท่าปุระ จารีตประเพณีลอยเรือของชาวเล จารีตแห่ผ้าขึ้นธาตุ สิ่งพวกนี้ล้วนเรียกว่าทรงอิทธิพลของความเลื่อมใสเข้ามามีหน้าที่สำคัญ หากแม้จะเป็นจารีตประเพณีที่เกี่ยวกับศาสนา
ในเรื่องของอัตลักษณ์ทางนิสัยจิตใจ อัตลักษณ์ทางด้านภูมิศาสตร์ อัตลักษณ์ทางด้านของกิน จะเห็นได้ชัดเจนมากมายในพื้นที่ภาคใต้ ถ้าหากพวกเราเป็นนักลองพวกเราจะพบว่ารสของของกินที่จังหวัดสงขลาก็จะเป็นรสกลางมากมายจืดชืดๆบางทีก็อาจจะอย่างกับภาคกึ่งกลางด้วยไป แม้กระนั้นเวลาพวกเราไปกินอาหารพอเพียงขยับไปจังหวัดพัทลุงแล้วรสจัดจ้าขึ้น ไปนครก็อีกแบบไปถึงเหล้าษฯ ก็รสอีกแบบ ส่วนของอัตลักษณ์ของคนเรา อัตลักษณ์ทางด้านภาษามองสำเนียง อัตลักษณ์ทางด้านภาษาก็จะแตกต่าง
|